ขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสร้างหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้หนังสือไม้สัก เพื่อนำไปถวายให้กับวัดป่าที่ขาดแคลน และเป็นวัดที่ติดต่อมา

fShare

Tweet

     ขอเรียนเชิญ ร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญ “สร้างหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้หนังสือไม้สัก” เพื่อนำไปถวายให้กับวัดสายปฏิบัติ ที่ขาดแคลนในจังหวัดอุบลราชธานี โดยทางวัดได้แจ้งกับทางกองทุนฯ ว่า ตั้งแต่สร้างวัดมา ทางวัดยังไม่มีหนังสือพระไตรปิฎกให้พระภิกษุสงฆ์ที่วัดได้อ่านศึกษาเลย ทางวัดจึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือเข้าไปทางกองทุนฯ โดยขอให้ทางกองทุนฯ ช่วยประชาสัมพันธ์หาเจ้าภาพ จัดสร้างหนังสือพระไตรปิฎกให้กับทางด้วย เพื่อที่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร ที่จำพรรษาอยู่ที่วัด จะได้มีหนังสือพระไตรปิฎกไว้อ่านศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ตามหลักพุทธศาสนา

ทางกองทุนฯ จึงขอเรียนเชิญทุกท่าน มาร่วมกันเป็นเจ้าภาพสร้างหนังสือพระไตรปิฎกถวายให้กับวัดนี้กัน

     โดยทางวัดได้แจ้งความประสงค์ ต้องการหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้หนังสือ เป็นของสำนักพิมพ์จุฬาราชวิทยาลัย จำนวน 1 ชุด มีทั้งหมด 45 เล่ม เป็นเจ้าภาพทำบุญเล่มละ 959 บาท หรือ เลือกรับเป็นเจ้าภาพคนเดียวทั้งชุด ชุดละ 42,000 บาท

• รับเป็นเจ้าภาพทำบุญ 1 เล่ม สามารถพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ ลงในเล่มหนังสือที่รับเป็นเจ้าภาพได้ 5 รายชื่อ
• รับเป็นเจ้าภาพสร้างคนเดียวทั้งชุด สามารถพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ ลงในเล่มหนังสือที่รับเป็นเจ้าภาพได้ทุกเล่ม เล่มละ 10 - 15 รายชื่อ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และ แจ้งความประสงค์ต้องการรับเป็นเจ้าภาพได้ที่ 089-550-9777 ไลน์ id : 0895509777 หรือ sarakuntho

ถ้าต้องการรับเป็นเจ้าภาพทำบุญสร้างคนเดียวทั้งชุด จะมีรายละเอียดของวัด ตามนี้

1. วัดป่าที่จังหวัดสกลนคร ทางวัดต้องการหนังสือพระไตรปิฎก ของสำนักพิมพ์มหามกุฎ ชุด 91 เล่ม พร้อมตู้หนังสือ ใช้งบในการเป็นเจ้าภาพชุดละ 52,900 บาท (ทางวัดต้องการด่วน มีความจำเป็นต้องใช้อ่าน ในช่วงเข้าพรรษา ) ราคานี้รวมค่าขนส่งไปที่วัดแล้ว

   ---

2. วัดสายปฏิบัติ ที่จังหวัดอุบลราชธานี ทางวัดต้องการหนังสือพระไตรปิฎก ของสำนักพิมพ์มหามกุฎ ชุด 91 เล่ม พร้อมตู้หนังสือ ใช้งบในการเป็นเจ้าภาพชุดละ 53,900 บาท (ทางวัดติดต่อขอมาเมื่อ พ.ศ. 2564) ราคานี้รวมค่าขนส่งไปที่วัดแล้ว

   ---

3. วัดป่า ที่จังหวัดนครพนม จำนวน 3 วัด ทางวัดต้องการหนังสือพระไตรปิฎก ของสำนักพิมพ์มหาจุฬา  ชุด 45 เล่ม พร้อมตู้หนังสือ ใช้งบในการเป็นเจ้าภาพ ชุดละ 39,000 บาท ทางวัดติดต่อขอมาเมื่อ พ.ศ. 2566 (ราคานี้รวมค่าจัดส่งไปที่วัดแล้ว)

   ---

4. วัดที่จังหวัดนนทบุรี จำนวน 1 วัด ทางวัดต้องการหนังสือพระไตรปิฎก ของสำนักพิมพ์มหามกุฎ  ชุด 91 เล่ม พร้อมตู้หนังสือ ใช้งบในการเป็นเจ้าภาพ ชุดละ 49,900 บาท

   ---

5. วัดที่จังหวัดอุบลราชธานี ทางวัดต้องการหนังสือพระไตรปิฎก ของสำนักพิมพ์มหามกุฎ ชุด 45 เล่ม พร้อมตู้หนังสือ ใช้งบในการเป็นเจ้าภาพชุดละ 41,900 บาท (ทางวัดต้องการด่วนนิดหนึ่ง  จะใช้ในช่วงเข้าพรรษา ) ราคานี้รวมค่าขนส่งไปที่วัดแล้ว

เงื่อนไขในการรับเป็นเจ้าภาพ แบบเป็นเล่ม

1. แจ้งชื่อ และเบอร์ติดต่อของผู้ที่ต้องการรับเป็นเจ้าภาพ ไปที่หมายเลขโทรศัพท์ 089-550-9777 หรือ แจ้งทางไลน์ โดยใช้หมายเลขนี้ เพิ่มเป็นเพื่อน
2. แจ้งจำนวนหนังสือ หรือ จำนวนปัจจัย ที่ต้องการรับเป็นเจ้าภาพ (เป็นเจ้าภาพเล่มละ 959 บาท สามารถพิมพ์ชื่อเจ้าภาพลงในหนังสือที่รับเป็นเจ้าภาพได้)
3. รายชื่อวัด ทางกองทุนฯ จะแจ้งให้ทราบ เฉพาะผู้ที่รับเป็นเจ้าภาพแล้วเท่านั้น เพื่อป้องกันผู้ที่หลอกถาม เพื่อเอาข้อมูลวัดจากทางชมรมฯ ไป แล้วนำเอาไปใช้ประโยชน์ส่วนตน จนทำให้เกิดปัญหามากมายกับทำทางกองทุนฯ เช่นแอบนำหนังสือไปถวายให้กับทางวัด แล้วไม่แจ้งให้ทางชมรมฯ ทราบ ก็ทำให้เกิดปัญหาเจ้าภาพซ้อนกับทางกองทุนฯ
4. เมื่อทางกองทนฯ หาเจ้าภาพได้ครบตามจำนวนแล้ว ทางกองทุนฯ จะส่งรายชื่อเจ้าภาพ ไปที่โรงพิมพ์ เพื่อให้ทางโรงพิมพ์ จัดพิมพ์รายชื่อเจ้าภาพลงในหนังสือให้ ในขั้นตอนนี้ ทางโรงพิมพ์จะใช้ระยะเวลาในการทำ 30 วัน เมื่อหนังสือพระไตรปิฎกจัดพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางกองทุนฯ จะนำหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้ ไปส่งมอบให้กับวัดที่ติดต่อขอมา
5. เจ้าภาพท่านใดต้องการ ใบอนุโมทนาบัตรจากทางวัดเพื่อนำไปลดภาษี จะมีค่าจัดส่ง ฉบับละ 100 บาท โดยจะจัดส่งให้ทาง EMS โดยจะจัดส่งให้ภายหลังจากที่ทางกองทุนฯ นำหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้ไปส่งมอบให้กับทางวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เงื่อนไขในการรับเป็นเจ้าภาพสร้างหนังสือพระไตรปิฏกพร้อมตู้คนเดียวทั้งชุด

1. แจ้งชื่อ และเบอร์ติดต่อของผู้ที่ต้องการรับเป็นเจ้าภาพ ไปที่หมายเลขโทรศัพท์ 089-550-9777 หรือ แจ้งทางไลน์ โดยใช้หมายเลขนี้ เพิ่มเป็นเพื่อน
2. แจ้งจังหวัดที่ต้องรับเป็นเจ้าภาพ (สามารถพิมพ์ชื่อเจ้าภาพลงในหนังสือที่รับเป็นเจ้าภาพได้ทุกเล่ม รวมทั้งทำป้ายชื่อเจ้าภาพติดที่ตู้ได้ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการทำป้าย 700 บาท)
3. เมื่อตกลงรับเป็นเจ้าภาพแล้ว ทางเจ้าภาพจะต้องโอนปัจจัยค่าหนังสือและตู้หนังสือ เต็มจำนวน ภายในวันที่ตกลงรับเป็นเจ้าภาพ ไปที่ หมายเลขบัญชี ธนาคารกสิกรไทย 125-3-43375-9 ชื่อบัญชี นายอานุภาพ
4. รายชื่อวัดที่จะนำหนังสือไปถวาย ทางกองทุนฯ จะแจ้งให้ผู้ที่ตกลงรับเป็นเจ้าภาพทราบเท่านั้น เพื่อป้องกันผู้ที่หลอกถาม เพื่อเอาข้อมูลวัดจากทางชมรมฯ ไป แล้วนำเอาไปใช้ประโยชน์ส่วนตน จนทำให้เกิดปัญหามากมายกับทางกองทุนฯ เช่นแอบนำหนังสือไปถวายให้กับทางวัด แล้วไม่แจ้งให้ทางชมรมฯ ทราบ ก็ทำให้เกิดปัญหาเจ้าภาพซ้อนกับทางกองทุนฯ
5. ทางโรงพิมพ์ จะใช้ระยะเวลาในการจัดทำ 20-30 วัน
6. เมื่อหนังสือพระไตรปิฏกและตู้ จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางกองทุนฯ จะแจ้งให้เจ้าภาพทราบ เพื่อนัดวัน นำหนังสือพระไตรปิฏกพร้อมตู้ ไปส่งมอบและทำพิธีถวายให้กับวัดที่ติดต่อขอมา โดยวันทำพิธีถวาย ทางเจ้าภาพจะเป็นผู้กำหนด แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทางวัดปลายด้วย
7. เจ้าภาพท่านใดต้องการ ใบอนุโมทนาบัตรจากทางวัดเพื่อนำไปลดภาษี จะมีค่าจัดส่ง ฉบับละ 100 บาท โดยจะจัดส่งให้ทาง EMS โดยจะจัดส่งให้ภายหลังจากที่ทางกองทุนฯ นำหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้ไปส่งมอบให้กับทางวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(ค่าจัดส่ง จะคิดในกรณี ที่ทางเจ้าภาพให้จัดส่งใบอนุโมทนาบัตร ให้ทาง EMS )

 ผลงานล่าสุด ที่นำหนังสือพระไตรปิฏกไปถวายให้กับวัดที่ติดต่อขอมา

• พิธีถวายหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้หนังสือ ให้กับวัดที่ขาดแคลนในจังหวัดน่าน
• ส่งมอบหนังสือพระไตรปิฎก ชุด 91 เล่ม พร้อมตู้หนังสือ ของสำนักพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย ให้กับเจ้าภาพที่วัดประชานิคมพัฒนาคม ขอนแก่น
• พิธีถวายและส่งมอบหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้ ให้กับวัดที่ขาดแคลนและเป็นวัดที่ติดต่อขอมาที่จังหวัดชัยนาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และ แจ้งร่วมทำบุญได้ที่

1. โทร 089-550-9777
2. ไลน์ id : 0895509777 (หรือสแกน QR CODE ด้านล่าง)

รายชื่อผู้รับเป็นเจ้าภาพยกชุด

รายชื่อผู้ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพ
สร้างหนังสือพระไตรปิฎกแบบเป็นเล่ม นำไปถวายให้กับวัดที่ อุบลราชธานี

รายชื่อผู้รับเป็นเจ้าภาพยกชุด
(ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว)

รายชื่อเจ้าภาพร่วมทำบุญ วัดที่ จ.กาญจนบุรี
(ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว)

คำกล่าวถวายหนังสือพระไตรปิฎกและตู้พระไตรปิฎก

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ยัคเฆ ภันเต ,สังโฆ ปะฏิชานาตุ ,มะยัง ภันเต ,เตปิฏะกัง สะมัญชุสัง
พุทธะปะริสายะ สัมมาปะฏิปัตติโสภะณายะ สังฆัสสะ นิยยาเทมะ
สาธุ โน กันเต อะยัง พุทธะปะริสายะ สัมมาปะฏิปัตติโสภะณายะ
เตปิฎะกัสสะ สะมัญชุสัสสะ ทานัสสะ อานิสังโส อัมหากัญเจวะ
มาตาปิตุอาที่นัญจะ ปิยะชะนานัง ที่ฆะรัตตัง
หิตายะ สุขายะ สังวัตตะตุ ฯ

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์โปรดรับทราบ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอมอบน้อมถวาย หนังสือพระไตรปิฎก พร้อมทั้งตู้นี้แด่พระสงฆ์ เพื่อความงดงามแห่งสัมมาปฏิบัติของพุทธบริษัท
ขออานิสงส์แห่งการน้อมถวายหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมทั้งตู้เพื่อความงดงามแห่งสัมมาปฏิบัติของพุทธบริษัทนี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลายจงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยแก่ปิยชนทั้งหลาย มีมารดา บิดา เป็นต้นด้วย
... ตลอดกาลนานเทอญ

อานิสงส์ของการสร้างพระไตรปิฎก

     สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารในเมืองสาวัตถี อันเป็นอารามของอนาถปิณฑิกเศรษฐี ครั้งนั้นพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรเถรเจ้าผู้มีอายุ ปรา ถนาจะให้พระพิชิตมารโปรดประทานซึ่งพระธรรมเทศนา แสดงอานิสงส์ในการที่บุคคลที่ได้สร้างพระไตรปิฎก ใว้ในพระบวรพุทธศานาให้พิศดาร เพื่อสาธุชนทั้งปวงให้ถึงปสันนาการเลื่อมใส อุตสาหะสร้างพระไตรปิฎก อันเป็นรากเหง้าเค้ามูลแห่งพระบวรศาสนา จึงได้เข้าไปทูลถามปัณหาว่า 

"ข้าแต่ พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ บุคคลใดผู้มีจิตใจประกอบด้วยศรัทธา ได้สร้างพระไตรปิฎกถวายในพระพุทธศานาแล้ว จักได้รับผลานิสงส์เป็นประการใด

ขอได้โปรดชี้แจงอานิสงส์แห่งบุญ ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกให้แก่หม่อมฉันได้สดับรับฟัง ณ กาลบัดนี้เถิดพระพุทธเจ้าข้า" ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงมีพุทธฎีกาตรัสว่า

"ดูก่อนสารีบุตร อันบุคคลผู้ใดสร้างพระไตรปิฎกถวายไว้ในศาสนานี้ ย่อมได้อานิสงส์เป็นอันมาก สุดจะนับได้ทั้งสิ้นเล่า เฉพาะอานิสงส์แห่งอักขระตัวเดียว ก็จะนับประมาณมิได้

สารีบุตร ผลานิสงส์แห่งบุคคลผู้ได้สร้างซึ่งอักขระตัวเดียวไว้ในศาสนานี้ ก็ให้ผลยังตนให้ประสบสุขสิ้นกาลช้านานคือ

• จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเป็นเวลานานถึง ๘๔,๐๐๐ กัปล์
• จะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินในประเทศราชเป็นเวลาช้านานถึง ๙ อสงไขย
• จะได้เสวยสมบัติในตระกูลพราหมณ์มหาศาล เป็นพราหมจารย์ มีปัญญามาก มีสมบัติมหาศาลเป็นเวลา ๙ อสงไขย
• จะได้เป็นมหาเศรษฐีผู้ใหญ่มีสมบัติมากเป็ยเวลา ๙ อสงไขย
• และได้เสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดีและปรนิมมิตวสวดี เหล่านี้ชั้นละ ๙ อสงไขย เป็นกำหนด

     ครั้นจุติจากเทวโลกแล้ว ก็จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีก จะได้เป็นคนมีทรัพยนับวิชา มากด้วยสมบัติศฤงคารบริวาร จะได้เป็นคนมี สัตย์ ยินดีอยู่ในการบำเพ็ญกุศล

     จะได้เป็นคนมีรูปโฉมงดงาม มีน้ำใจโอบอ้อมอารีแก่ชนทั่วไป จะบริบูรณ์พูนเกิดไม่รู้จักบกพร่อง ทั้งนี้เพราะอานิสงส์แห่งอักษรตัวเดียว ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา

     การที่กำหนดอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกนั้นเป็นอาจินไตย ฯ สา รีบุตรเอย เมื่อครั้งพระศานาพระปุราณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งนั้นคถาคตยังเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติเป็นอำมาตย์ของสมเด็จบรมกษัตริย์ ผู้เป็นพุทธบิดาแห่งพระปุราณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า คถาคตได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา

     ณ กาล ครั้งนั้นพระพุทธองค์ก็ได้ทรงพยากรณ์ไว้ว่า "ในอนาคตอำมาตย์นี้จักได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า สมณโคดม สมด้วยพระนามของคถาคตในกาลบัดนี้ฯ "

     อนึ่งได้ทรงพยากรณ์ว่า "พระพุทธมารดาแห่งคถาคตนี้ จักทรงมีพระนามว่า สิริมหามายาราชเทวี พระพุทธบิดาจักทรงพระนามว่า สิริสุทโธทนมหาราช ทรง พยากรณ์ต่อไปว่า "เมื่อคถาคตได้ตรัสรู้แล้ว จะทรงทรงมีพระชนม์ ๘๐ พรรษา แล้วจะดับขันธ์หันพระพักตร์เข้าสู่พระปรินิพพาน จะทรงประทานพระศาสนาไว้ ๕,๐๐๐ พรรษา"

     ก็สมด้วยพระพุทธฎีกาสิ้นด้วยประการฉะนี้ฯ ครั้นตรัสแสดงอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกแก่พระสารีบุตรดังนี้

     ต่อมาพระองค์ได้ตรัสเทศนาแสดงอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎก แต่พระเจ้าประเสนทิโกสนราชว่า "บุคคลได้สร้างพระไตรปิฎกโดยเขียนเองก็ดี จ้างคนอื่นเขียนก็ดี จะมีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ ให้ สำเร็จปราถนาทุกประการ ให้สำเร็จสมบัติทั้ง ๓ ประการคือ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ อักขระแต่ละตัว มีอานิสงส์เท่ากับการสร้างพระพุทธรูปองค์หนึ่ง อักขระที่จารึกพระไตรปิฎก ยังประดษฐานอยู่ตราบใดก็ชื่อว่าพระพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์อยู่ตราบนั้นฯ"

     อันพระไตรปิฎกนี้จัดเป็นรากเหง้าเค้ามูลแห่งพระศาสนา ดังนั้นผู้สร้างพระไตรปิฎกจึงมีผลานิสงส์มาก พระสารีบุตรเถรเจ้ามีปัญญามากก็เพราะอานิสงส์ที่ได้สร้างพระไตรปิฎกแล

     ครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า ปุสสะ พระสารีบุตรเกิดเป็น สุชาตมานพ มีภรรยาชื่อนางนันทา มีบุตรคนหนึ่งชื่อชื่อคันธกุมาร มีใจเลื่อมใสศรัทธาใคร่สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระพุทธศาสนา ให้ พระพระสังฆเถร เขียนพระไตรปิฎกไม่ปรากฎจำนวนเพราะไม่มีปรากฏในบาลี ครั้นพระเถรเจ้าเขียนเสร็จแล้ว สุชาตก็ได้ลงรักปิดทองเอาผ้าห่มของตนเป็นผ้าห่อคัมภีร์ ใช้ด้ายทำสายรัด และเก็บไว้ภายในหอไตรให้ทาส ๔ คนเป็นพนักงานเฝ้ารักษาเป็นประจำเสมอมา

     ครั้นต่อมากาลนานมา สองสามีภรรยาก็ได้ตายไป เสวยสมบัติอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ในวิมานทองสูง ๕ โยชน์ แวดล้อมด้วยนางอัปสร ๑,๐๐๐ นาง เต็มด้วยอิฏฐารมณ์มากมายหลายประการฯ

     เมื่อเสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นดุสิต คิดเป็นเวลาในมนุษย์ ๗๕ โกฏิ ๖๐ แสนปี แล้วจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต ขึ้นไปเสวยทิพย์สมบัติอยู่ในฉกามาพจรสวรรค์ถึง ๓ ครั้ง ครั้นในภัทรกัปรนี้ สองสามีภรรยาก็ได้มาเกิดเป็นพระเจ้า จักรพรรดิราช สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนคลังแก้ว ขุนพลแก้ว ดวงแก้วมณีโชติ จักรแก้ว นางแก้ว นางแก้วก็คือนางนันทา ผู้เคยเป็นภรรยาในอดีตนั้นเองฯ

     นอกจากนี้อานิสงส์ที่ได้ปิดทองพระคัมภีร์นั้น ย่อมตกแต่งให้มีผิวพรรณดั่งทองคำธรรมชาติฯ ผลที่ได้เอาผ้าห่มห่อคัมภีร์ได้บัลดารให้คลังอันเต็มไปด้วยผ้า ๘๔,๐๐๐ คลัง ผ้าแต่ละผืนล้วนแต่มีราคาแพงๆทั้งนั้นฯ

     อานิสงส์ที่ได้ใช้ด้ายรัดคัมภีร์ได้ทำให้สมบัติทั้งปวงถาวรมั่นคง ไม่มีการเสื่อมสูญหายด้วยอันตรายใดๆทั้งสิ้น

     อานิสงส์ที่ได้ทำตู้และหีบใส่พระไตรปิฎกนั้นได้ตกแต่งให้เป็นบรมจักพรรดิ สมบูรณ์ด้วยปรางค์ปราสาทแก้วถึง ๘๔,๐๐๐ ปรางค์ ล้วนทำด้วยแก้วประกาฬ แก้วลาย แก้วผลึก และแก้วอินทนิน นับเงินและทองเข้าด้วย จึงเป็นรัตนทั้ง ๗ ประการฉะนี้ฯ

     ด้วยอานิสงส์ที่มณฑปหอไตร ได้บันดาลให้อาชญาแผ่ไปทั่วในทวีปใหญ่ทั้ง ๔ ทวีปน้อย ๒,๐๐๐ เป็นบริวารฯ

     ด้วยอานิสงส์ที่ให้ทาสทั้ง ๔ อยู่ประจำรักษาหอไตรนั้นก็ตกแต่งให้มีบริวารแวดล้อมอยู่เป็นนิตยกาล

     ครั้นต่อมากาลนานมา พระเจ้าจักรพรรดิราชา ก็ได้ซึ่งความตายตามสภาพของสังขาร แล้วไปเกิดเป็นพระอินทรอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึง จากนั้นก็เกิดเป็นมนุษย์ พบพระศาสนาของพระสมณโคดมบรมครู และได้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาผู้เลิศด้วยปัญญาแลฯ

     การสร้างพระไตรปิฎกนั้นมีผลานิสงส์สุดที่นับได้ดังที่พระชินศรีตรัสว่า "ผลนั้นไม่มีที่สิ้นสุด จะนับประมาณมิได้ดังนี้ฯ"

fShare

Tweet