* ขอปิดโครงการ เนื่องจากได้เจ้าภาพครบแล้ว ทั้งสองโครงการ
ขอเรียนเชิญท่านร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพสร้าง-ถวายหนังสือพระไตรปิฎก เพื่อถวายเป็นธรรมทาน ให้กับวัดที่ยากจนและขาดแคลน และต้องการใช้หนังสือจริงๆ ในครั้งนี้ทางกองทุนจะนำหนังสือพระไตรปิฎกไปถวายให้กับวัดในจังหวัดสุพรรณบุรี
ชุดตู้ และหนังสือพระไตรปิฎก (๔๕ เล่ม)
ชุดตู้ และหนังสือพระไตรปิฎก (91 เล่ม)
* ตู้หนังสือที่นำไปถวายจริงอาจมีลักษณะแตกต่างจากภาพประกอบ
ในครั้งนี้ ทางกองทุนจะจัดสร้างหนังสือพระไตรปิฎก 2 ชุด
- ชุด 45 เล่ม พร้อมตู้ ราคาเล่มละ 790 บาท ถวายวัดใหม่คูเมือง (ขอปิดโครงการ เนื่องจากได้เจ้าภาพครบแล้ว)
- ชุด 91 เล่ม ราคาเล่มละ 490 บาท ถวายวัดศรีทรงธรรม จ.สุพรรณบุรี (ขอปิดโครงการ เนื่องจากได้เจ้าภาพครบแล้ว)
สามารถร่วมทำบุญจะร่วมทำบุญเป็นเล่มได้ตามกำลังทรัพย์ หรือกำลังศรัทธาของท่าน ส่วนกำหนดการถวาย จะนำไปถวาย หลังจากที่ได้เจ้าภาพครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและร่วมทำบุญ ได้ที่ 089-550-9777 หรือ e-mail : sarakuntho@gmail.com และถ้าไม่เป็นการรบกวน ขอฝากกัลยาณมิตรทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์ และช่วยแชร์งานบุญนี้ให้ด้วยครับ (กดปุ่มแชร์ด้านล่างของเว็บก็ได้)
ธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)
ชื่อบัญชี "กองทุนจัดสร้างพระไตรปิฎก"
405 - 816933 - 1
(เมื่อโอนปัจจัยมาแล้ว กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยครับ)
รายชื่อผู้ร่วมทำบุญ
ชุด 45 เล่ม
ถวายวัดใหม่คูเมือง จ.สุพรรณบุรี
วันที่ | รายชื่อ | จำนวน |
1. พลเอก ดรัณ ยุทธวงษ์สุข เล่มที่ 1 - 9 2. นาง กวีณา ยุทธวงษ์สุข เล่มที่ 10 - 16 3. นาย ศุภกร ยุทธวงษ์สุข เล่มที่17 - 22 4. นาย ธนัท ยุทธวงษ์สุข เล่มที่ 23 - 28 5. นางสาว ฉันท์ธิษณ์ตา ยุทธวงษ์สุข เล่มที่ 29 - 34 6. เด็กชาย ปวิช ยุทธวงษ์สุข เล่มที่ 35 - 40 7. นางสาว อภิณห์ชญาณ์ แก้วประดิษฐ์ เล่มที่ 41 - 45 เป็นเจ้าภาพสร้างหนังสือพระไตรปิฎก 25,000 บาท เป็นเจ้าภาพถวายผ้าไตร 1 ชุด 2,400 บาท เป็นเจ้าภาพถวายเครื่องใช้ 2,000 บาท ทำพิธีถวาย วันที่ 6 ธันวาคม 2559 |
29,400.00 | |
ขอปิดโครงการ เนื่องจากได้เจ้าภาพครบแล้ว | ||
รายชื่อผู้ร่วมทำบุญ
ชุด 91 เล่ม
ถวายวัดศรีทรงธรรม จ.สุพรรณบุรี
วันที่ | รายชื่อ | จำนวน |
คุณปลิดา ปัทมาภินันท์ อุทิศให้ ด.ช น้ำเพชร โกมลวานิช | 1,350.00 | |
คุณพงษ์พิทักษ์ นาคโคตคำ | 500.00 | |
คุณเจริญ ปาจริยานนท์ อุทิศให้แด่ คุณนงลักษณ์ ธนรัตน์สิทธิกุล | 450.00 | |
คุณธีระเดช ชิตอรุณ | 1,000.00 | |
คุณ Chanthana Berglyd | 500.00 | |
คุณภัสสร คุณประดิษฐ์ สังข์ทอง | 490.00 | |
ร.ต.อ.สมจิต-รัชดา สุขจิตและครอบครัว | 1,580.00 | |
คุณสุรีรัตน์ แก้วไทรชู และบุตร นางสำรวม แก้วไทรชู และครอบครัว |
5,000.00 | |
พิมพ์ใจ รัตนะ | 500.00 | |
เพ็ญศิริ รัตนะและครอบครัว | 500.00 | |
มารยาท ภูริวัฒน์ | 1,000.00 | |
จันทิรา แซ่เต็ง จูเช็ง แซ่ลิ้ม | 500.00 | |
สรวัชญ์ เชี่ยวเชิงสันติ ปวีรรัฐ เชี่ยวเชิงสันติ เพ็ญณัชชา เชี่ยวเชิงสันติ พิรัชพล เชี่ยวเชิงสันติ |
500.00 | |
สิทธิชัย วีรญาณพันธุ์ | 500.00 | |
บุญญ์กัญญ์ วีรญาณพันธุ์ | 500.00 | |
อารีนันท์ วีรญาณพันธุ์ | 500.00 | |
อัครนันท์ วีรญาณพันธุ์ | 500.00 | |
อัมพัน วีรญาณพันธุ์ | 500.00 | |
เกษมณี แก้วสมบูรณ์ | 500.00 | |
เวียงศักดิ์ ภูริวัฒน์ | 500.00 | |
กิตติมา ภูริวัฒน์ | 500.00 | |
กฤษดา เบญจกุล | 500.00 | |
ฐมกร เบญจกุล | 500.00 | |
นายจักรพัฒน์ โรจน์อารยานนท์ และครอบครัว | 580.00 | |
นางบรรจง ศรีรักษ์ | 490.00 | |
นายชาญวิทย์ เอื้ออัครวงษ์ | 490.00 | |
น.ส.นัฐฐนิกานต์ จันทร์ชื่น | 490.00 | |
ด.ญ.ปัณณพัทธ์ เอื้ออัครวงษ์ | 490.00 | |
ด.ช.พชรวิทย์ เอื้ออัครวงษ์ | 490.00 | |
พีรกาญจน์ ศิริพร และครอบครัว | 500.00 | |
พีรเดช ศิริพร | 500.00 | |
นายมาโนชย์ นางสุภาภรณ์ นายชาโน น.ส.สุชัญญา วัดล้อม จำนวน 20 เล่ม |
9,800.00 | |
นส.ปรียานุช บุญสมัคร นายสมบัติ บุญสมัคร นางมะณี บุญสมัคร นายนัตกร บุญสมัคร |
500.00 | |
คุณสุเทพ-คุณมันทนา รัชธรและครอบครัว | 500.00 | |
คุณสรวัชญ์ คุณปวีรรัฐ คุณเพ็ญณัชชา คุณพิรัชพล เชี่ยวเชิงสันติ | 980.00 | |
คุณสิทธิชัย คุณบุญญ์กัญญ์ คุณอารีนันท์ คุณอัครนันท์ วีรญาณพันธุ์ | 7,350.00 | |
คุณธัญลักษณ์ ศิริณรงค์ชัย คุณธารา ธนิษญา เทย์เลอร์ |
980.00 | |
-- ขอปิดโครงการ เนื่องจากได้เจ้าภาพครบแล้ว -- | ||
อานิสงส์ของการสร้างพระไตรปิฎก
สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารในเมืองสาวัตถี อันเป็นอารามของอนาถปิณฑิกเศรษฐี ครั้งนั้นพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรเถรเจ้าผู้มีอายุ ปรา ถนาจะให้พระพิชิตมารโปรดประทานซึ่งพระธรรมเทศนา แสดงอานิสงส์ในการที่บุคคลที่ได้สร้างพระไตรปิฎก ใว้ในพระบวรพุทธศานาให้พิศดาร เพื่อสาธุชนทั้งปวงให้ถึงปสันนาการเลื่อมใส อุตสาหะสร้างพระไตรปิฎก
อันเป็นรากเหง้าเค้ามูลแห่งพระบวรศาสนา จึงได้เข้าไปทูลถามปัณหาว่า
"ข้าแต่ พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ บุคคลใดผู้มีจิตใจประกอบด้วยศรัทธา ได้สร้างพระไตรปิฎกถวายในพระพุทธศานาแล้ว จักได้รับผลานิสงส์เป็นประการใด
ขอได้โปรดชี้แจงอานิสงส์แห่งบุญ ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกให้แก่หม่อมฉันได้สดับรับฟัง ณ กาลบัดนี้เถิดพระพุทธเจ้าข้า" ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงมีพุทธฎีกาตรัสว่า
"ดูก่อนสา รีบุตร อันบุคคลผู้ใดสร้างพระไตรปิฎกถวายไว้ในศาสนานี้ ย่อมได้อานิสงส์เป็นอันมาก สุดจะนับได้ทั้งสิ้นเล่า เฉพาะอานิสงส์แห่งอักขระตัวเดียว ก็จะนับประมาณมิได้
สารีบุตรผลานิสงส์แห่งบุคคลผู้ได้สร้างซึ่งอักขระตัวเดียวไว้ในศาสนานี้ ก็ให้ผลยังตนให้ประสบสุขสิ้นกาลช้านานคือ
- จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเป็นเวลานานถึง ๘๔,๐๐๐ กัปล์
- จะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินในประเทศราชเป็นเวลาช้านานถึง ๙ อสงไขย
- จะได้เสวยสมบัติในตระกูลพราหมณ์มหาศาล เป็นพราหมจารย์ มีปัญญามาก มีสมบัติมหาศาลเป็นเวลา ๙ อสงไขย
- จะได้เป็นมหาเศรษฐีผู้ใหญ่มีสมบัติมากเป็ยเวลา ๙ อสงไขย
- และได้เสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดีและปรนิมมิตวสวดี เหล่านี้ชั้นละ ๙ อสงไขย เป็นกำหนด
ครั้นจุติจากเทวโลกแล้ว ก็จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีก จะได้เป็นคนมีทรัพยนับวิชา มากด้วยสมบัติศฤงคารบริวาร จะได้เป็นคนมี สัตย์ ยินดีอยู่ในการบำเพ็ญกุศล
จะได้เป็นคนมีรูปโฉมงดงาม มีน้ำใจโอบอ้อมอารีแก่ชนทั่วไป จะบริบูรณ์พูนเกิดไม่รู้จักบกพร่อง ทั้งนี้เพราะอานิสงส์แห่งอักษรตัวเดียว ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา
การที่กำหนดอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกนั้นเป็นอาจินไตย ฯ สา รีบุตรเอย เมื่อครั้งพระศานาพระปุราณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งนั้นคถาคตยังเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติเป็นอำมาตย์ของสมเด็จบรมกษัตริย์ ผู้เป็นพุทธบิดาแห่งพระปุราณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า คถาคตได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา
ณ กาล ครั้งนั้นพระพุทธองค์ก็ได้ทรงพยากรณ์ไว้ว่า "ในอนาคตอำมาตย์นี้จักได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า สมณโคดม สมด้วยพระนามของคถาคตในกาลบัดนี้ฯ "
อนึ่งได้ทรงพยากรณ์ว่า "พระพุทธมารดาแห่งคถาคตนี้ จักทรงมีพระนามว่า สิริมหามายาราชเทวี พระพุทธบิดาจักทรงพระนามว่า สิริสุทโธทนมหาราช ทรง พยากรณ์ต่อไปว่า "เมื่อคถาคตได้ตรัสรู้แล้ว จะทรงทรงมีพระชนม์ ๘๐ พรรษา แล้วจะดับขันธ์หันพระพักตร์เข้าสู่พระปรินิพพาน จะทรงประทานพระศาสนาไว้ ๕,๐๐๐ พรรษา"
ก็สมด้วยพระพุทธฎีกาสิ้นด้วยประการฉะนี้ฯ ครั้นตรัสแสดงอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกแก่พระสารีบุตรดังนี้
ต่อมาพระองค์ได้ตรัสเทศนาแสดงอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎก แต่พระเจ้าประเสนทิโกสนราชว่า "บุคคลได้สร้างพระไตรปิฎกโดยเขียนเองก็ดี จ้างคนอื่นเขียนก็ดี จะมีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ ให้ สำเร็จปราถนาทุกประการ ให้สำเร็จสมบัติทั้ง ๓ ประการคือ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ อักขระแต่ละตัว มีอานิสงส์เท่ากับการสร้างพระพุทธรูปองค์หนึ่ง อักขระที่จารึกพระไตรปิฎก ยังประดษฐานอยู่ตราบใดก็ชื่อว่าพระพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์อยู่ตราบนั้นฯ"
อันพระไตรปิฎกนี้จัดเป็นรากเหง้าเค้ามูลแห่งพระศาสนา ดังนั้นผู้สร้างพระไตรปิฎกจึงมีผลานิสงส์มาก พระสารีบุตรเถรเจ้ามีปัญญามากก็เพราะอานิสงส์ที่ได้สร้างพระไตรปิฎกแล
ครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า ปุสสะ พระสารีบุตรเกิดเป็น สุชาตมานพ มีภรรยาชื่อนางนันทา มีบุตรคนหนึ่งชื่อชื่อคันธกุมาร มีใจเลื่อมใสศรัทธาใคร่สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระพุทธศาสนา ให้ พระพระสังฆเถร เขียนพระไตรปิฎกไม่ปรากฎจำนวนเพราะไม่มีปรากฏในบาลี ครั้นพระเถรเจ้าเขียนเสร็จแล้ว สุชาตก็ได้ลงรักปิดทองเอาผ้าห่มของตนเป็นผ้าห่อคัมภีร์ ใช้ด้ายทำสายรัด และเก็บไว้ภายในหอไตรให้ทาส ๔ คนเป็นพนักงานเฝ้ารักษาเป็นประจำเสมอมา
ครั้นต่อมากาลนานมา สองสามีภรรยาก็ได้ตายไป เสวยสมบัติอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ในวิมานทองสูง ๕ โยชน์ แวดล้อมด้วยนางอัปสร ๑,๐๐๐ นาง เต็มด้วยอิฏฐารมณ์มากมายหลายประการฯ
เมื่อเสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นดุสิต คิดเป็นเวลาในมนุษย์ ๗๕ โกฏิ ๖๐ แสนปี แล้วจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต ขึ้นไปเสวยทิพย์สมบัติอยู่ในฉกามาพจรสวรรค์ถึง ๓ ครั้ง ครั้นในภัทรกัปรนี้ สองสามีภรรยาก็ได้มาเกิดเป็นพระเจ้า จักรพรรดิราช สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนคลังแก้ว ขุนพลแก้ว ดวงแก้วมณีโชติ จักรแก้ว นางแก้ว นางแก้วก็คือนางนันทา ผู้เคยเป็นภรรยาในอดีตนั้นเองฯ
นอกจากนี้อานิสงส์ที่ได้ปิดทองพระคัมภีร์นั้น ย่อมตกแต่งให้มีผิวพรรณดั่งทองคำธรรมชาติฯ ผลที่ได้เอาผ้าห่มห่อคัมภีร์ได้บัลดารให้คลังอันเต็มไปด้วยผ้า ๘๔,๐๐๐ คลัง ผ้าแต่ละผืนล้วนแต่มีราคาแพงๆทั้งนั้นฯ
อานิสงส์ที่ได้ใช้ด้ายรัดคัมภีร์ได้ทำให้สมบัติทั้งปวงถาวรมั่นคง ไม่มีการเสื่อมสูญหายด้วยอันตรายใดๆทั้งสิ้น
อานิสงส์ที่ได้ทำตู้และหีบใส่พระไตรปิฎกนั้นได้ตกแต่งให้เป็นบรมจักพรรดิ สมบูรณ์ด้วยปรางค์ปราสาทแก้วถึง ๘๔,๐๐๐ ปรางค์ ล้วนทำด้วยแก้วประกาฬ แก้วลาย แก้วผลึก และแก้วอินทนิน นับเงินและทองเข้าด้วย จึงเป็นรัตนทั้ง ๗ ประการฉะนี้ฯ
ด้วยอานิสงส์ที่มณฑปหอไตร ได้บันดาลให้อาชญาแผ่ไปทั่วในทวีปใหญ่ทั้ง ๔ ทวีปน้อย ๒,๐๐๐ เป็นบริวารฯ
ด้วยอานิสงส์ที่ให้ทาสทั้ง ๔ อยู่ประจำรักษาหอไตรนั้นก็ตกแต่งให้มีบริวารแวดล้อมอยู่เป็นนิตยกาล
ครั้นต่อมากาลนานมา พระเจ้าจักรพรรดิราชา ก็ได้ซึ่งความตายตามสภาพของสังขาร แล้วไปเกิดเป็นพระอินทรอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึง จากนั้นก็เกิดเป็นมนุษย์ พบพระศาสนาของพระสมณโคดมบรมครู และได้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาผู้เลิศด้วยปัญญาแลฯ
การสร้างพระไตรปิฎกนั้นมีผลานิสงส์สุดที่นับได้ดังที่พระชินศรีตรัสว่า "ผลนั้นไม่มีที่สิ้นสุด จะนับประมาณมิได้ดังนี้ฯ"