* ขอปิดโครงการ เนื่องจากได้เจ้าภาพครบแล้ว

     ขอเชิญทุกท่าน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพสร้างหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้ไม้สักเพื่อนำไป ถวายให้กับวัดที่ขาดแคลน หรือวัดที่ติดต่อขอมากับทางชมรม โดยในครั้งนี้ ทางชมรม จะนำไปถวาย ให้กับวัดปาเลา ใน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งทางวัด ได้แจ้งกับทางชมรม ว่าปัจุบันทางวัดเพิ่งจะสร้างใหม่ยังไม่มีหนังสือพระไตรปิฎก จึงขอให้ทางชมรม ช่วยหาเจ้าภาพจัดสร้างให้กับทางที เพื่อที่พระสงฆ์จะได้ใช้เป็นตำราในการศึกษาพระพุทธศาสนา โดยจะจัดสร้างเป็นหนังสือพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย จำนวน 1 ชุด มีทั้งหมด 91 เล่ม เป็นเจ้าภาพ เล่มละ 490 บาท (รวมค่าตู้และค่าส่งแล้ว) tripidok 2020

     ถ้าท่านใด มีความประสงค์ ที่จะต้องการรับเป็นเจ้าภาพ สร้างถวายคนเดียว ทั้งชุด เป็นเจ้าภาพชุดละ 39,900 บาท (ค่าขนส่ง 4,500 บาท) เป็นชุด 91 เล่ม ของสำนักพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย

S 3399683S 3399685

S 3399686
S 3399687

S 5111814
S 5111816S 5111817
S 5111820S 5111823

     ร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญ 1 เล่ม สามารถพิมพ์ชื่อของท่านและครอบครัว ไว้ที่หน้าแรกของหนังสือ ที่ท่านรับเป็นเจ้าภาพได้ กำหนดวันนำหนังสือพระไตรปิฎกไปถวาย ประมาณเดือนกรกฎาคม 2563 (วันเข้าพรรษา) หรือ เมื่อหาเจ้าภาพได้ครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ในวันที่นำหนังสือ ไปถวายที่วัดปลายทาง เจ้าภาพสามารถเดินทางไปร่วมทำพิธีที่วัดปลายทางได้ครับ โดยเดินทางไปเอง ตามวันเวลา ที่กำหนด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญ ได้ที่ 089-550-9777 หรือ e-mail : sarakuntho@gmail.com

 

รายชื่อผู้ร่วมทำบุญ

ลำดับ รายชื่อ จำนวน
  นาย นครินทร์ จันทร์ประทีป และครอบครัว
น.ส.เสริมสุข ปุริมะ และครอบครัว
น.ส.ศจี หารฟ้าเลื่อน และครอบครัว
รับเป็นเจ้าภาพสร้างถวาย 1 ชุด 44,590 บาท
44,590.00

 

อานิสงส์ของการสร้างพระไตรปิฎก

    สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารในเมืองสาวัตถี อันเป็นอารามของอนาถปิณฑิกเศรษฐี ครั้งนั้นพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรเถรเจ้าผู้มีอายุ ปรา ถนาจะให้พระพิชิตมารโปรดประทานซึ่งพระธรรมเทศนา แสดงอานิสงส์ในการที่บุคคลที่ได้สร้างพระไตรปิฎก ใว้ในพระบวรพุทธศานาให้พิศดาร เพื่อสาธุชนทั้งปวงให้ถึงปสันนาการเลื่อมใส อุตสาหะสร้างพระไตรปิฎก
อันเป็นรากเหง้าเค้ามูลแห่งพระบวรศาสนา จึงได้เข้าไปทูลถามปัณหาว่า

"ข้าแต่ พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ บุคคลใดผู้มีจิตใจประกอบด้วยศรัทธา ได้สร้างพระไตรปิฎกถวายในพระพุทธศานาแล้ว จักได้รับผลานิสงส์เป็นประการใด

ขอได้โปรดชี้แจงอานิสงส์แห่งบุญ ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกให้แก่หม่อมฉันได้สดับรับฟัง ณ กาลบัดนี้เถิดพระพุทธเจ้าข้า" ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงมีพุทธฎีกาตรัสว่า

"ดูก่อนสา รีบุตร อันบุคคลผู้ใดสร้างพระไตรปิฎกถวายไว้ในศาสนานี้ ย่อมได้อานิสงส์เป็นอันมาก สุดจะนับได้ทั้งสิ้นเล่า เฉพาะอานิสงส์แห่งอักขระตัวเดียว ก็จะนับประมาณมิได้
สารีบุตรผลานิสงส์แห่งบุคคลผู้ได้สร้างซึ่งอักขระตัวเดียวไว้ในศาสนานี้ ก็ให้ผลยังตนให้ประสบสุขสิ้นกาลช้านานคือ

  • จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเป็นเวลานานถึง ๘๔,๐๐๐ กัปล์
  • จะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินในประเทศราชเป็นเวลาช้านานถึง ๙ อสงไขย
  • จะได้เสวยสมบัติในตระกูลพราหมณ์มหาศาล เป็นพราหมจารย์ มีปัญญามาก มีสมบัติมหาศาลเป็นเวลา ๙ อสงไขย
  • จะได้เป็นมหาเศรษฐีผู้ใหญ่มีสมบัติมากเป็ยเวลา ๙ อสงไขย
  • และได้เสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดีและปรนิมมิตวสวดี เหล่านี้ชั้นละ ๙ อสงไขย เป็นกำหนด

     ครั้นจุติจากเทวโลกแล้ว ก็จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีก จะได้เป็นคนมีทรัพยนับวิชา มากด้วยสมบัติศฤงคารบริวาร จะได้เป็นคนมี สัตย์ ยินดีอยู่ในการบำเพ็ญกุศล

     จะได้เป็นคนมีรูปโฉมงดงาม มีน้ำใจโอบอ้อมอารีแก่ชนทั่วไป จะบริบูรณ์พูนเกิดไม่รู้จักบกพร่อง ทั้งนี้เพราะอานิสงส์แห่งอักษรตัวเดียว ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา

     การที่กำหนดอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกนั้นเป็นอาจินไตย ฯ สา รีบุตรเอย เมื่อครั้งพระศานาพระปุราณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งนั้นคถาคตยังเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติเป็นอำมาตย์ของสมเด็จบรมกษัตริย์ ผู้เป็นพุทธบิดาแห่งพระปุราณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า คถาคตได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา

     ณ กาล ครั้งนั้นพระพุทธองค์ก็ได้ทรงพยากรณ์ไว้ว่า "ในอนาคตอำมาตย์นี้จักได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า สมณโคดม สมด้วยพระนามของคถาคตในกาลบัดนี้ฯ "

     อนึ่งได้ทรงพยากรณ์ว่า "พระพุทธมารดาแห่งคถาคตนี้ จักทรงมีพระนามว่า สิริมหามายาราชเทวี พระพุทธบิดาจักทรงพระนามว่า สิริสุทโธทนมหาราช ทรง พยากรณ์ต่อไปว่า "เมื่อคถาคตได้ตรัสรู้แล้ว จะทรงทรงมีพระชนม์ ๘๐ พรรษา แล้วจะดับขันธ์หันพระพักตร์เข้าสู่พระปรินิพพาน จะทรงประทานพระศาสนาไว้ ๕,๐๐๐ พรรษา"

     ก็สมด้วยพระพุทธฎีกาสิ้นด้วยประการฉะนี้ฯ ครั้นตรัสแสดงอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกแก่พระสารีบุตรดังนี้

     ต่อมาพระองค์ได้ตรัสเทศนาแสดงอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎก แต่พระเจ้าประเสนทิโกสนราชว่า "บุคคลได้สร้างพระไตรปิฎกโดยเขียนเองก็ดี จ้างคนอื่นเขียนก็ดี จะมีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ ให้ สำเร็จปราถนาทุกประการ ให้สำเร็จสมบัติทั้ง ๓ ประการคือ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ อักขระแต่ละตัว มีอานิสงส์เท่ากับการสร้างพระพุทธรูปองค์หนึ่ง อักขระที่จารึกพระไตรปิฎก ยังประดษฐานอยู่ตราบใดก็ชื่อว่าพระพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์อยู่ตราบนั้นฯ"

     อันพระไตรปิฎกนี้จัดเป็นรากเหง้าเค้ามูลแห่งพระศาสนา ดังนั้นผู้สร้างพระไตรปิฎกจึงมีผลานิสงส์มาก พระสารีบุตรเถรเจ้ามีปัญญามากก็เพราะอานิสงส์ที่ได้สร้างพระไตรปิฎกแล

     ครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า ปุสสะ พระสารีบุตรเกิดเป็น สุชาตมานพ มีภรรยาชื่อนางนันทา มีบุตรคนหนึ่งชื่อชื่อคันธกุมาร มีใจเลื่อมใสศรัทธาใคร่สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระพุทธศาสนา ให้ พระพระสังฆเถร เขียนพระไตรปิฎกไม่ปรากฎจำนวนเพราะไม่มีปรากฏในบาลี ครั้นพระเถรเจ้าเขียนเสร็จแล้ว สุชาตก็ได้ลงรักปิดทองเอาผ้าห่มของตนเป็นผ้าห่อคัมภีร์ ใช้ด้ายทำสายรัด และเก็บไว้ภายในหอไตรให้ทาส ๔ คนเป็นพนักงานเฝ้ารักษาเป็นประจำเสมอมา

     ครั้นต่อมากาลนานมา สองสามีภรรยาก็ได้ตายไป เสวยสมบัติอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ในวิมานทองสูง ๕ โยชน์ แวดล้อมด้วยนางอัปสร ๑,๐๐๐ นาง เต็มด้วยอิฏฐารมณ์มากมายหลายประการฯ

     เมื่อเสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นดุสิต คิดเป็นเวลาในมนุษย์ ๗๕ โกฏิ ๖๐ แสนปี แล้วจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต ขึ้นไปเสวยทิพย์สมบัติอยู่ในฉกามาพจรสวรรค์ถึง ๓ ครั้ง ครั้นในภัทรกัปรนี้ สองสามีภรรยาก็ได้มาเกิดเป็นพระเจ้า จักรพรรดิราช สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนคลังแก้ว ขุนพลแก้ว ดวงแก้วมณีโชติ จักรแก้ว นางแก้ว นางแก้วก็คือนางนันทา ผู้เคยเป็นภรรยาในอดีตนั้นเองฯ

     นอกจากนี้อานิสงส์ที่ได้ปิดทองพระคัมภีร์นั้น ย่อมตกแต่งให้มีผิวพรรณดั่งทองคำธรรมชาติฯ ผลที่ได้เอาผ้าห่มห่อคัมภีร์ได้บัลดารให้คลังอันเต็มไปด้วยผ้า ๘๔,๐๐๐ คลัง ผ้าแต่ละผืนล้วนแต่มีราคาแพงๆทั้งนั้นฯ

     อานิสงส์ที่ได้ใช้ด้ายรัดคัมภีร์ได้ทำให้สมบัติทั้งปวงถาวรมั่นคง ไม่มีการเสื่อมสูญหายด้วยอันตรายใดๆทั้งสิ้น

     อานิสงส์ที่ได้ทำตู้และหีบใส่พระไตรปิฎกนั้นได้ตกแต่งให้เป็นบรมจักพรรดิ สมบูรณ์ด้วยปรางค์ปราสาทแก้วถึง ๘๔,๐๐๐ ปรางค์ ล้วนทำด้วยแก้วประกาฬ แก้วลาย แก้วผลึก และแก้วอินทนิน นับเงินและทองเข้าด้วย จึงเป็นรัตนทั้ง ๗ ประการฉะนี้ฯ

     ด้วยอานิสงส์ที่มณฑปหอไตร ได้บันดาลให้อาชญาแผ่ไปทั่วในทวีปใหญ่ทั้ง ๔ ทวีปน้อย ๒,๐๐๐ เป็นบริวารฯ

     ด้วยอานิสงส์ที่ให้ทาสทั้ง ๔ อยู่ประจำรักษาหอไตรนั้นก็ตกแต่งให้มีบริวารแวดล้อมอยู่เป็นนิตยกาล

     ครั้นต่อมากาลนานมา พระเจ้าจักรพรรดิราชา ก็ได้ซึ่งความตายตามสภาพของสังขาร แล้วไปเกิดเป็นพระอินทรอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึง จากนั้นก็เกิดเป็นมนุษย์ พบพระศาสนาของพระสมณโคดมบรมครู และได้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาผู้เลิศด้วยปัญญาแลฯ

     การสร้างพระไตรปิฎกนั้นมีผลานิสงส์สุดที่นับได้ดังที่พระชินศรีตรัสว่า "ผลนั้นไม่มีที่สิ้นสุด จะนับประมาณมิได้ดังนี้ฯ"

 

share now2

office hour2023

line id

จำนวนผู้เยี่ยมชม

วันนี้ 9

เมื่อวานนี้ 246

สัปดาห์นี้ 1012

เดือนนี้ 6943

ทั้งหมด 977377