* ขอปิดโครงการ เนื่องจากได้ทำพิธีทอดกฐินไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 มียอดเงินที่มีผู้ร่วมทำบุญกับทางกองทุน รวมกันเป็นจำนวนเงิน 8,400 บาท

*****************

* ขออนุญาตประชาสัมพันธ์งานบุญด่วน เพราะเหลือเวลาอีกแค่ 4 วันเท่านั้น ก็จะถึงกำหนดวันทอดกฐิน ของวัดศรีบุญเรือง จ.น่าน ในขณะนี้ทางวัดยังขาดเจ้าภาพกฐิน

     กองทุนสารคนฺโธ ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพ ทอดกฐินสามัคคี เพื่อช่วยเหลือวัดที่ยากไร้และขาดแคลน ในเขตทุรกันดาร เป็นวัดที่ปฏิบัติดี แต่ขาดแคลนปัจจัยเพราะมีคนไปทำบุญบริจาคไม่ค่อยมาก โดยในครั้งนี้ ทางกองทุนจะจัดกองกฐินสามัคคี เพื่อไปทอดให้เแก่ วัดศรีบุญเรือง จ.น่าน เนื่องจากยังไม่มีเจ้าภาพจองกฐิน โดยจะนำไปทอดในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2559


* จากแฟ้มภาพ ทอดกฐิน วัดศรีบุญเรือง พ.ศ.2558

รายการผ้ากฐินและเครื่องกฐิน

  1. ผ้ากฐิน จำนวน 9 ชุดๆ ละ 2,499 บาท
  2. ตาลปัตร ปักชื่อเจ้าภาพ อันละ 899 บาท
  3. บาตรแสตนเลส 8 นิ้ว ใบละ  999 บาท
  4. สัปทน 1,999 บาท
  5. เครื่องบริวารกฐิน 19,999 บาท

(ผ้ากฐินทุกผืน จะเป็นผ้าไตรจีวรใหม่ ตัดเย็บแบบตะเข็บคู่ ผ้ามัสลิน 9 ขันธ์ จะมีชื่อเจ้าภาพปักติดไว้ทุกชุด)

     ปัจจัยที่ได้จากกองกฐินจะนำไปร่วมสมทบทุน เทหล่อพระประธานเพื่อนำไปประดิษฐานในศาลาปฏิบัติธรรม และร่วมสมทบในการสร้างศาลาปฏิบัติธรรมหลังใหม่ จะได้เกิดประโยชน์แก่สาธุชนที่มาร่วมทำบุญหรือประกอบกิจกรรมต่างๆ ที่วัดศรีบุญเรืองแห่งนี้

   ท่านที่มีความประสงค์ จะรับเป็นประธานทอดกฐินสามัคคี หรือร่วมทำบุญตามกำลังทรัพย์และกำลังศรัทธาของท่าน โดยการโอนเงินเข้าบัญชี ตามหมายเลขบัญชีด้านล่าง หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.089-550-9777


* จากแฟ้มภาพ ทอดกฐิน วัดศรีบุญเรือง พ.ศ.2558

ธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัพย์)

ชื่อบัญชี "กองทุนจัดสร้างพระประธาน"

405 - 816888 - 0

รายชื่อผู้ร่วมทำบุญ

ลำดับ รายชื่อ จำนวน
  นางประจักษ์จิต อัศวบุตร
นายพนาสันต์ อัศวบุตร
นางสาวจิตสุดา อัศวบุตร
เป็นเจ้าภาพผ้ากฐิน 3 ชุด
ตาลปัตร 1 อัน
บาตร 1 ใบ
* ทางเจ้าภาพถวายเป็นสิ่งของตามรายการด้านบน
9,750.00
  คุณสาธิต บัวเลิศ  100.00
  คุณอานุภาพ สันติเมทนีดล  2,000.00
  คุณรุ่งนภา แตระกุล  2,500.00
  คุณพูลภักดิ์ พูลสวัสดิ์ และครอบครัว 300.00
  คุณสุรีย์ มงคลเลิศพาณิช 2,000.00
  พลอากาศเอกคณิต เหลื่อมเจริญ 1,500.00
     
   รวมเงิน 8,400.00
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     

การทอดกฐิน

     เป็นประเพณี ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเข้าพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ เนื่องจากในวันเข้าพรรษา (แรม 1 ค่ำ เดือน 8) พระภิกษุทุกรูป ต้องจำพรรษาที่วัดใดวัดหนึ่ง งดไปค้างแรมที่อื่นเป็นเวลา 3 เดือน จนถึงวันออกพรรษาคือ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) หลังออกพรรษาไปแล้วจึงจะมีการทอดกฐินกัน ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และตระหนักถึงอานิสงส์อันไพศาลของการทอดกฐิน

     กฐินทาน เป็น บุญที่พิเศษกว่าบุญอื่น ด้วยเหตุหลายประการ อาทิ เป็นบุญที่เกิดจากพุทธประสงค์ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นความสำคัญ ในการผลัดเปลี่ยนจีวรเก่าของประภิกษุสงฆ์ จึงทรงมีพุทธานุญาต ให้พระภิกษุสงฆ์รับผ้ากฐิน เพื่อผลัดเปลี่ยนไตรจีวรเก่าได้

     กาลทาน คือ ทานที่จำกัดด้วยเวลา ต้องถวายในกำหนด 1 เดือน นับแต่ออกพรรษา

     สังฆทาน คือ ไม่เฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง พระภิกษุที่จำพรรษาในวัดนั้นๆ ต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 รูป พระภิกษุผู้รับผ้ากฐินต้องจำพรรษาที่วัดนั้นโดยไม่ขาดพรรษา และตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเอง ให้มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งๆ ขึ้นไป เตรียมพร้อมเป็นเนื้อนาบุญแก่ชาวโลก

     แต่ละวัดรับกฐินได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น ผ้าไตรจีวร ต้องถูกต้องตามลักษณะที่สงฆ์กำหนดไว้ การทอดกฐินจึงเป็นบุญใหญ่ และเป็นบุญที่เกิดได้ยาก ที่ทั้งพระภิกษุสงฆ์ และสาธุชนต่างได้รับอานิสงส์อันไพบูลย์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะต้องมีองค์ประกอบหลายประการ

        จึงขอเชิญชวนท่านสาธุชนทั้งหลาย มาร่วมกันสร้างบุญใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต และเพื่อสะสมบุญไว้เป็นเสบียง ติดตัวไปในภพชาติเบื้องหน้า อีกทั้งยังเป็นการสืบทอดประเพณีที่ดีงามนี้ ได้ดำรงอยู่ต่อไปตลอดกาลนาน

อานิสงส์การสร้างบุญกฐิน

1. ทำให้เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์สมบัติมากมาย และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้โดยง่าย
2. ทำให้มีจิตใจแช่มชื่น บริสุทธิ์ และผ่องใสอยู่เสมอ
3. ทำให้มีจิตใจตั้งมั่นเป็นสมาธิและเข้าถึงธรรมได้โดยง่าย
4. ได้ชื่อว่าเป็นผู้ใช้ทรัพย์ให้เกิดเป็นกุศล ติดตัวไปภพชาติเบื้องหน้าได้อย่างเต็มที่
5. ทำให้เป็นคนรูปงาม ผิวพรรณงาม เป็นที่รักของบุคคลทั่วไป
6. ทำให้มีชื่อเสียง เกียรติคุณน่ายกย่องสรรเสริญ เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา น่าเคารพนับถือ
7. ทำให้ผู้นั้น แม้ตายไปแล้ว ก็ได้ไปเกิดในโลกสวรรค์